กรุณาใช้ตัวระบุนี้เพื่ออ้างอิงหรือเชื่อมต่อรายการนี้: http://ir.sru.ac.th/handle/123456789/1099
ชื่อเรื่อง: มาตราการในการป้องกันภัยอาชญากรรมทางเทคโนโลยี กรณีศึกษา การหลอกลวงให้โอนเงินทางออนไลน์ในพื้นที่อำเภอเกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี
ชื่อเรื่องอื่นๆ: Measures to Prevent Technology Crimes: A Case Study of Online Money Transfer Fraud in Koh Samui District, Surat Thani Province
ผู้แต่ง/ผู้ร่วมงาน: ณภพร นพสุวรรณ
อัคคกร ไชยพงษ์
คำสำคัญ: อาชญากรรมทางเทคโนโลยี
มาตรการป้องกัน
การหลอกลวงออนไลน์
วันที่เผยแพร่: 21-กุม-2568
สำนักพิมพ์: บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยราชภัฏสุราษฎร์ธานี
แหล่งอ้างอิง: บทความ, การค้นคว้าอิสระศิลปศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาการพัฒนากระบวนการยุติธรรม
บทคัดย่อ: การศึกษานี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษารูปแบบของอาชญากรรมทางเทคโนโลยีในกรณีการหลอกลวงให้โอนเงินออนไลน์ในพื้นที่อำเภอเกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี 2) เพื่อศึกษาบทบาทของรัฐในการป้องกันอาชญากรรมทางเทคโนโลยี กรณีศึกษา การหลอกลวงให้โอนเงินทางออนไลน์และ 3) เพื่อศึกษามาตราการในการป้องกันอาชญากรรมทางเทคโนโลยี กรณีศึกษา การหลอกลวงให้โอนเงินทางออนไลน์ การวิจัยนี้ใช้วิธีการวิจัยเชิงคุณภาพ โดยวิเคราะห์จากเอกสาร การวิจัยแบบตีความ และการสัมภาษณ์เชิงลึกกับผู้เสียหายจากการหลอกลวงออนไลน์ จำนวน 7 ราย ผลการศึกษาพบว่า 1) รูปแบบการหลอกลวงออนไลน์ส่วนใหญ่เกี่ยวข้องกับการแอบอ้างเป็นเจ้าหน้าที่ธนาคาร ตำรวจ หน่วยงานขนส่ง และบริษัทต่าง ๆ เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ และใช้เทคนิคเร่งรัดหรือข่มขู่เหยื่อให้โอนเงิน รวมถึงการใช้โปรไฟล์ปลอมบนแพลตฟอร์มการลงทุน พบว่า มีรูปแบบการหลอกลวงถึง 12 ประเภท นอกจากนี้ 2) บทบาทของรัฐในการป้องกันอาชญากรรมทางเทคโนโลยีในรูปแบบการหลอกลวงให้โอนเงินออนไลน์ เกี่ยวข้องกับการพัฒนากฎหมายเฉพาะทาง การเสริมทักษะเจ้าหน้าที่ และการสร้างความตระหนักรู้แก่ประชาชน เพื่อป้องกันและลดความเสี่ยงจากอาชญากรรมทางเทคโนโลยี นอกจากนี้ รัฐยังต้องประสานความร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มงวดเพื่อสร้างมาตรการป้องกันที่มีประสิทธิภาพและยั่งยืน ดังนั้น 3) มาตรการป้องกันควรเน้นการสร้างความร่วมมือระหว่างประเทศ เพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลและสนับสนุนทางกฎหมาย ช่วยให้การสืบสวนและดำเนินคดีมีประสิทธิภาพ การฝึกอบรมบุคลากร และการให้ข้อมูลผ่านสื่อออนไลน์และสื่อสาธารณะ เพื่อเพิ่มความตระหนักรู้ จะช่วยลดความเสี่ยงของการหลอกลวงทางออนไลน์ได้ การศึกษาครั้งนี้จึงข้อเสนอแนะเชิงนโยบายมี 7 ข้อ ได้แก่ 1) เพิ่มการรณรงค์สร้างความตระหนักรู้แก่ประชาชน 2) จัดตั้งศูนย์ประสานงานท้องถิ่น 3) สนับสนุนการทำงานร่วมกันระหว่างหน่วยงานรัฐ 4) พัฒนาทักษะด้านความปลอดภัยไซเบอร์ของบุคลากร 5) จัดตั้งกองทุนสนับสนุนการวิจัยเครื่องมือป้องกันอาชญากรรมทางเทคโนโลยี 6) ส่งเสริมการรายงานเหตุอาชญากรรมทางออนไลน์ผ่านช่องทางที่เข้าถึงง่าย และ 7) พัฒนาระบบเฝ้าระวังชุมชนผ่านความร่วมมือกับหน่วยงานรัฐและเอกชน
รายละเอียด: การค้นคว้าอิสระศิลปศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาการพัฒนากระบวนการยุติธรรม
URI: http://ir.sru.ac.th/handle/123456789/1099
ปรากฏในกลุ่มข้อมูล:Master of Arts (Development of Justice System)

แฟ้มในรายการข้อมูลนี้:
แฟ้ม รายละเอียด ขนาดรูปแบบ 
is DJS68_Napaporn.pdfบทความ, การค้นคว้าอิสระ ณภพร นพสุวรรณ485.65 kBAdobe PDFดู/เปิด


รายการทั้งหมดในระบบคิดีได้รับการคุ้มครองลิขสิทธิ์ มีการสงวนสิทธิ์เว้นแต่ที่ระบุไว้เป็นอื่น