กรุณาใช้ตัวระบุนี้เพื่ออ้างอิงหรือเชื่อมต่อรายการนี้:
http://ir.sru.ac.th/handle/123456789/631
ชื่อเรื่อง: | แนวทางการพัฒนาการบริหารกิจการคณะสงฆ์ สังกัดมหานิกาย : กรณีศึกษา การบริหารของเจ้าอาวาสของวัดในจังหวัดชุมพร |
ชื่อเรื่องอื่นๆ: | DEVELOPMENT GUIDELINES OF THE SANGHA ADMINISTRATION OF MAHANIKAYA ORDER : A CASE STUDY OF THE ABBOTS ADMINISTRATION IN CHUMPHON PROVINCE |
ผู้แต่ง/ผู้ร่วมงาน: | อัครพงษ์ พูลผล |
คำสำคัญ: | มหานิกาย เจ้าอาวาส |
วันที่เผยแพร่: | 2561 |
สำนักพิมพ์: | มหาวิทยาลัยราชภัฏสุราษฎร์ธานี |
บทคัดย่อ: | การวิจัยครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาการบริหารกิจการคณะสงฆ์ เพื่อศึกษาเปรียบเทียบการบริหารกิจการคณะสงฆ์ของเจ้าอาวาสจากวัด แยกเป็นรายอำเภอของวัดในจังหวัดชุมพร และเพื่อศึกษาแนวทางการพัฒนาการบริหารกิจการคณะสงฆ์ของเจ้าอาวาสของวัด ในจังหวัดชุมพร ใช้ระเบียบวิธีวิจัยเชิงปริมาณ และเชิงคุณภาพ เครื่องมือที่ใช้เป็นแบบสอบถาม และการสัมภาษณ์เชิงลึก การวิเคราะห์ข้อมูลใช้ค่าสถิติ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน ทดสอบสมมติฐานโดยใช้ค่าเอฟ (F-test) ผลการวิจัยพบว่า แนวทางการพัฒนาการบริหารกิจการคณะสงฆ์ สังกัดมหานิกาย : กรณีศึกษาการบริหารของเจ้าอาวาสวัดในจังหวัดชุมพร ในภาพรวมอยู่ในระดับมากทุกด้าน เมื่อพิจารณารายด้านพบว่า ด้านการศาสนศึกษา มีค่าเฉลี่ยสูงสุด ส่วนด้านการศึกษาสงเคราะห์มีค่าเฉลี่ยต่ำสุด ผลการเปรียบเทียบทั้งภาพรวมและรายด้าน พบว่าไม่แตกต่างกัน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ ที่ระดับ 0.05 แนวทางการพัฒนาการบริหารกิจการคณะสงฆ์ ด้านการปกครอง ควรดูแลพระภิกษุสามเณรและไวยาวัจรกร ให้ปฏิบัติหน้าที่ของตนเองให้ถูกต้องเรียบร้อย ด้านการศาสนศึกษา ควรส่งเสริมให้มีการเรียนการสอนให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น มีแบบแผนการพัฒนาในด้านศาสนศึกษาให้ชัดเจน ด้านการศึกษาสงเคราะห์ ควรสนับสนุนอุปกรณ์การศึกษาให้มากขึ้น เช่น มอบทุนการศึกษา และส่งเสริมให้พระภิกษุสามเณรเข้าไปสอนในสถานศึกษา เป็นต้น ด้านการเผยแผ่พระพุทธศาสนา ส่งเสริมพระภิกษุ สามเณรให้มีความสามารถในการเผยแผ่ และจัดกิจกรรมทางพระพุทธศาสนาเป็นต้น ด้านการสาธารณูปการ ควรมีคณะกรรมการผู้รับผิดชอบ ดูแล ควบคุมในการก่อสร้างให้มีความถูกต้อง และจัดระบบนิเวศน์ภูมิทัศน์ของวัดให้ถูกสุขลักษณะ ด้านการสาธารณสงเคราะห์ ควรสนับสนุนกิจกรรมสาธารณประโยชน์ของชุมชน เช่น การพัฒนาชุมชน การสร้างถนน และเป็นที่พึ่งด้านจิตใจ คือ ให้คำแนะนำโดยการใช้หลักธรรมะในพระพุทธศาสนาเป็นแนวทางปฏิบัติ |
URI: | http://ir.sru.ac.th/handle/123456789/631 |
ปรากฏในกลุ่มข้อมูล: | Public Administration: Independent Study (IS) |
แฟ้มในรายการข้อมูลนี้:
แฟ้ม | รายละเอียด | ขนาด | รูปแบบ | |
---|---|---|---|---|
cover.pdf | 304.21 kB | Adobe PDF | ดู/เปิด | |
abstract.pdf | 602.27 kB | Adobe PDF | ดู/เปิด | |
content (3).pdf | 319.58 kB | Adobe PDF | ดู/เปิด | |
content.pdf | 308.45 kB | Adobe PDF | ดู/เปิด | |
content (2).pdf | 154.88 kB | Adobe PDF | ดู/เปิด | |
chapter 4.pdf | 4.45 MB | Adobe PDF | ดู/เปิด | |
chapter 5.pdf | 2.11 MB | Adobe PDF | ดู/เปิด | |
chapter 1.pdf | 1.34 MB | Adobe PDF | ดู/เปิด | |
chapter 2.pdf | 6.39 MB | Adobe PDF | ดู/เปิด | |
chapter 3.pdf | 899.39 kB | Adobe PDF | ดู/เปิด | |
appendix 4.pdf | 1.62 MB | Adobe PDF | ดู/เปิด | |
appendix 5.pdf | 595.86 kB | Adobe PDF | ดู/เปิด | |
appendix 1.pdf | 1.58 MB | Adobe PDF | ดู/เปิด | |
appendix 2.pdf | 303.93 kB | Adobe PDF | ดู/เปิด | |
appendix 3.pdf | 316 kB | Adobe PDF | ดู/เปิด | |
reference (2).pdf | 905.03 kB | Adobe PDF | ดู/เปิด |
รายการทั้งหมดในระบบคิดีได้รับการคุ้มครองลิขสิทธิ์ มีการสงวนสิทธิ์เว้นแต่ที่ระบุไว้เป็นอื่น