กรุณาใช้ตัวระบุนี้เพื่ออ้างอิงหรือเชื่อมต่อรายการนี้: http://ir.sru.ac.th/handle/123456789/1144
ชื่อเรื่อง: การพัฒนาระบบสารสนเทศดิจิทัลภูมิปัญญาของหมอยาพื้นบ้าน: กรณีศึกษาชุมชน อ่าวบ้านดอน จังหวัดสุราษฎร์ธานี
ชื่อเรื่องอื่นๆ: Development of Digital Information System on Wisdom of Folk Medicine Practitioners: A Case Study of Ban Don Bay Community, Surat Thani Province
ผู้แต่ง/ผู้ร่วมงาน: อมรรัตน์ แซ่กวั่ง
คำสำคัญ: การพัฒนาระบบสารสนเทศ
สื่อดิจิทัล
หมอยาพื้นบ้าน
ภูมิปัญญาหมอยาพื้นบ้าน
ชุมชนอ่าวบ้านดอน
วันที่เผยแพร่: 19-กัน-2568
สำนักพิมพ์: มหาวิทยาลัยราชภัฏสุราษฎร์ธานี
บทคัดย่อ: การวิจัยเรื่องการพัฒนาระบบสารสนเทศดิจิทัลภูมิปัญญาของหมอยาพื้นบ้าน: กรณีศึกษา ชุมชนอ่าวบ้านดอน จังหวัดสุราษฎร์ธานี เป็นการวิจัยแบบผสมผสาน ประกอบด้วยการวิจัยเชิงคุณภาพ เชิงปฏิบัติการแบบมีส่วนร่วม และเชิงปริมาณ มีวัตถุประสงค์ เพื่อศึกษาบริบทชุมชน บริบทของหมอยา พื้นบ้าน และองค์ความรู้ภูมิปัญญาของหมอยาพื้นบ้านชุมชนอ่าวบ้านดอน อำเภอไชยา จังหวัดสุราษฎร์ธานี ใช้วิธีการวิจัยเชิงคุณภาพและเชิงปฏิบัติการแบบมีส่วนร่วม เพื่อพัฒนาระบบสารสนเทศดิจิทัลสำหรับ จัดเก็บองค์ความรู้ภูมิปัญญาของหมอยาพื้นบ้านชุมชนอ่าวบ้านดอน อำเภอไชยา จังหวัดสุราษฎร์ธานี ตามกรอบแนวคิดของวงจรพัฒนาระบบสารสนเทศหรือ SDLC (System Development Life Cycle: SDLC)และเพื่อพัฒนาเครือข่ายการถ่ายทอดความรู้ภูมิปัญญาของหมอยาพื้นบ้านในจังหวัดสุราษฎร์ธานี ใช้วิธีการวิจัยเชิงปริมาณ โดยใช้วิธีสุ่มกลุ่มตัวอย่างแบบเจาะจง (Purposive Sample) จากหมอยา พื้นบ้านชุมชนอ่าวบ้านดอนตำบลพุมเรียง ตำบลตะกรบ และตำบลเลม็ด อำเภอไชยา จังหวัดสุราษฎร์ธานี ผลการศึกษาเกี่ยวกับบริบทชุมชน พบว่า มีประวัติความเป็นมาเต็มไปด้วยร่องรอยของ อารยะธรรมและภูมิปัญญามากค่า ทั้งยังเป็นศูนย์กลางของธรรมะ มาตั้งแต่ยุคที่อาณาจักรทวารวดีและ ศรีวิชัยยังรุ่งเรืองเป็นต้นมา ซึ่งเป็นเมืองเก่าแก่มากแห่งหนึ่งในทางใต้ของภูมิภาคนี้เป็นศูนย์กลางการ ปกครองและศูนย์กลางการค้าขายกับต่างประเทศ รวมทั้งเป็นศูนย์กลางการเผยแพร่ศาสนา สภาพทั่วไป อำเภอไชยามี 9 ตำบล 54 หมู่บ้าน มีตำบลที่พื้นที่ติดอ่าวบ้านดอน 3 ตำบล คือ ตำบลพุมเรียงมีพื้นที่ ประมาณ 70 ตารางกิโลเมตร (รวมพื้นที่ในทะเล) เป็นชุมชนชายฝั่งทะเลด้านตะวันออก ตำบลตะกรบ มีพื้นที่ประมาณ 74.5 ตารางกิโลเมตร มีอาณาเขตที่เป็นอ่าวบ้านดอน คือ ทิศใต้ และตำบลเลม็ดมีพื้นที่ ประมาณ 98 ตารางกิโลเมตร มีอาณาเขตที่เป็นอ่าวบ้านดอน คือ ทิศตะวันออก ด้านเศรษฐกิจ ทั้งสาม ค ตำบล ชาวบ้านส่วนใหญ่มีรายได้จากการประกอบอาชีพประมงขนาดเล็ก เช่น ออกเรือหาปู ปลา และ อีกจำนวนหนึ่งเลี้ยงปลาในกระชัง หอยแครง และกุ้งกุลาดำ รองลงมาประกอบอาชีพทำการเกษตรกรรม เช่น ทำนา ทำสวนยาง วิถีชีวิตของชาวบ้าน ทั้งสามตำบล ส่วนใหญ่นับถือศาสนาพุทธ รองลงมาศาสนา อิสลาม ใช้ภาษาถิ่น (พูดภาษาใต้) เป็นหลักในการดำรงชีวิตประจำวัน ผลจากการศึกษาบริบทของ หมอยาพื้นบ้านในตำบลพุมเรียง 4 คน ตำบลตะกรบ 4 คน และตำบลเลม็ด 5 คน พบว่า หมอยาพื้นบ้าน ส่วนใหญ่ชำนาญในการรักษาโรคได้หลายโรค คือ ต่อกระดูก เริม โรควัยทอง โรคเด็ก โรคตานขโมย โรคน้ำเหลืองเสีย เข็ดข้อ โรคปวดเมื่อยตามร่างกาย ประจำเดือนมาไม่ปกติ และงูกัด ยกเว้นหมอที่รักษา เกี่ยวกับกระดูก งูกัด และที่เกี่ยวกับคุณไสย มักมีความชำนาญเฉพาะโรคนั้นๆ หมอยาพื้นบ้านเป็นคน พื้นเพเดิมเน้นการยังชีพให้มีความสุขสบายตามอัตภาพ ส่วนใหญ่มาจากครอบครัวชาวบ้านที่ประกอบ อาชีพประมงพื้นบ้าน และอาชีพเกษตรกรรม คือทำสวน ทำนา ที่มีฐานะปานกลาง สามารถอ่านเขียน หนังสือได้ โดยสืบต่อเรียนรู้มาจากบรรพบุรุษ ซึ่งมีครูหมอเป็นหลักสำคัญของการสืบต่อ บ้านของหมอ จึงมีหิ้งครู ในส่วนองค์ความรู้ภูมิปัญญา พบว่า หมอส่วนใหญ่ไม่มีตำราที่เป็นองค์ความรู้ภูมิปัญญาของ หมอยาพื้นบ้าน แต่ใช้การจดจำจากที่หมอหรือบรรพบุรุษที่สอนต่อกันมา การกล่าวถึงโรคหรืออาการ ของโรค หมอมีองค์ความรู้ในการรักษาโรคที่คล้ายกันทั้งสามตำบล การตรวจโรคมักจะใช้ประสบการณ์ ในการบำบัดรักษามาสอบถามอาการ จับดู สังเกตลักษณะของผู้ที่มารับการบำบัดรักษา จากการศึกษา ไม่มีรายละเอียดชนิดตัวยา สัดส่วน และปริมาณการผสมยาไว้ชัดเจน ที่เป็นเช่นนี้หมอยาพื้นบ้านบอก ว่าหวงในภูมิปัญญาเพื่อมิให้ใครนำไปใช้ประโยชน์ได้อย่างง่ายๆ สำหรับการพัฒนาระบบสารสนเทศดิจิทัลภูมิปัญญาหมอยาพื้นบ้านตามกรออบแนวคิดของ วงจรพัฒนาระบบสารสนเทศหรือ SDLC (System Development Life Cycle: SDLC) ได้ระบบ สารสนเทศดิจิทัลภูมิปัญญาหมอยาพื้นบ้านที่ได้จัดทำขึ้นได้เข้าสู่เว็บไซต์ระบบสารสนเทศหมอยาบ้านดอน ผ่าน http://moryabandon.info ซึ่งสามารถนำไปใช้เป็นต้นแบบของการพัฒนาระบบสารสนเทศ ดิจิทัลภูมิปัญญาของหมอยาพื้นบ้านที่เหมาะสมและตรงความต้องการของผู้ใช้ ในส่วนผลการศึกษาพัฒนาเครือข่ายการถ่ายทอดความรู้ภูมิปัญญาของหมอยาพื้นบ้านใน จังหวัดสุราษฎร์ธานีพบว่า ความคิดเห็นและความพึงพอใจการใช้งานระบบสารสนเทศดิจิทัลโดยรวม ในระดับมาก โดยมีด้านอรรถประโยชน์มีความคิดเห็นและความพึงพอใจมากที่สุด ด้านเนื้อหาข้อมูล ด้านการสืบค้น ด้านการออกแบบ/ฟังก์ชั่น และด้านการใช้คำสำคัญในการสืบค้นมีความคิดเห็นและ ความพึงพอใจมาก
URI: http://ir.sru.ac.th/handle/123456789/1144
ปรากฏในกลุ่มข้อมูล:DI: Research Reports

แฟ้มในรายการข้อมูลนี้:
แฟ้ม รายละเอียด ขนาดรูปแบบ 
Amonrat.pdf9.14 MBAdobe PDFดู/เปิด


รายการทั้งหมดในระบบคิดีได้รับการคุ้มครองลิขสิทธิ์ มีการสงวนสิทธิ์เว้นแต่ที่ระบุไว้เป็นอื่น