กรุณาใช้ตัวระบุนี้เพื่ออ้างอิงหรือเชื่อมต่อรายการนี้: http://ir.sru.ac.th/handle/123456789/877
ระเบียนเมทาดาทาแบบเต็ม
ฟิลด์ DC ค่าภาษา
dc.contributor.authorกุลวิชญ์ ตันจะโขen_US
dc.contributor.authorชูศักดิ์ เอกเพชรen_US
dc.contributor.authorนัฎจรี เจริญสุขen_US
dc.date.accessioned2021-07-16T04:28:06Z-
dc.date.available2021-07-16T04:28:06Z-
dc.date.issued2564-
dc.identifier.citationการค้นคว้าอิสระครุศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาการบริหารการศึกษาen_US
dc.identifier.urihttp://ir.sru.ac.th/handle/123456789/877-
dc.descriptionการค้นคว้าอิสระครุศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาการบริหารการศึกษา บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยราชภัฏสุราษฎร์ธานีen_US
dc.description.abstractการวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) เพื่อศึกษาสภาพปัญหาและความต้องการใช้โปรแกรมสารสนเทศเพื่อการบริหารงานการเงินและบัญชีของโรงเรียนขนาดเล็ก 2) เพื่อพัฒนาโปรแกรมสารสนเทศเพื่อการบริหารงานการเงินและบัญชีของโรงเรียนขนาดเล็ก 3) เพื่อประเมินประสิทธิภาพโปรแกรมสารสนเทศเพื่อการบริหารงานการเงินและบัญชีของโรงเรียนขนาดเล็ก โดยวิธีการดำเนินการดังนี้ 1) ศึกษาสภาพปัญหาและความต้องการใช้โปรแกรมสารสนเทศเพื่อการบริหารงานการเงินและบัญชีของโรงเรียนขนาดเล็ก ซึ่งประชากร ได้แก่ ผู้บริหาร เจ้าหน้าที่การเงิน/บัญชี จำนวน 73 คน เครื่องมือที่ใช้เป็นแบบสอบถาม 2) พัฒนาโปรแกรมสารสนเทศเพื่อการบริหารงานการเงินและบัญชีของโรงเรียนขนาดเล็ก ประเมินโปรแกรมฯ โดยผู้เชี่ยวชาญ จำนวน 5 คน ซึ่งอยู่เกณฑ์ที่สามารถใช้งานได้ และ 3) ประเมินประสิทธิภาพโปรแกรมสารสนเทศเพื่อการบริหารงานการเงินและบัญชีของโรงเรียนขนาดเล็ก โดยกลุ่มตัวอย่างทดลองระบบ ฯ ได้แก่ ผู้บริหาร เจ้าหน้าที่การเงิน/บัญชี จำนวน 6 คน ได้มาโดยการเลือกแบบเจาะจง เครื่องมือที่ใช้เป็นแบบแบบประเมินโปรแกรมฯ วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้ค่าเฉลี่ยและส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ผลการวิจัยพบว่า 1) สภาพปัญหาและความต้องการในการพัฒนาโปรแกรมสารสนเทศเพื่อการบริหารงานการเงินและบัญชีของโรงเรียนขนาดเล็กพบว่า ครูมีภาระมากเกินไปทั้งงานสอนและงานสนับสนุนการสอน เกิดความผิดพลาดในการบันทึกข้อมูลของครู ความต้องการโดยรวมมีความต้องการใช้อยู่ในระดับมากที่สุดและเมื่อพิจารณาเป็นรายข้อพบว่า โปรแกรมสามารถบันทึกรายรับ-รายจ่ายได้และโปรแกรมสามารถสรุปยอดเงินคงเหลือประจำวันได้มีค่าร้อยละความต้องการสูงสุด รองลงมาคือ โปรแกรมมีขั้นตอนที่ใช้งานได้ง่ายและโปรแกรมสามารถเพิ่ม-ลบ แก้ไขผู้ใช้งาน และรหัสผ่านเป็นข้อที่มีค่าร้อยละความต้องการต่ำสุด 2) ผลการพัฒนาโปรแกรมสารสนเทศเพื่อการบริหารงานการเงินและบัญชีของโรงเรียนขนาดเล็กประกอบด้วย โปรแกรมสามารถเข้าใช้งานได้จากหลายอุปกรณ์สามารถกำหนดสิทธิ์ผู้ใช้งานในระดับต่างๆ สามารถบันทึกรายรับรายจ่ายสามารถสรุปเงินคงเหลือประจำวันสามารถบันทึกทะเบียนคุมแยกตามประเภทเงินต่างๆได้สามารถสืบค้นข้อมูลย้อนหลังและสามารถออกรายงานการเงินได้ ผลการตรวจสอบระบบโดยผู้เชี่ยวชาญ จำนวน 5 คน พบว่า มีค่าดัชนีความสอดคล้อง ระหว่าง 0.80-1.00 สามารถใช้งานได้ 3) ผลการประเมินประสิทธิภาพของโปรแกรมสารสนเทศเพื่อการบริหารงานการเงินและบัญชีของโรงเรียนขนาดเล็ก พบว่าผลการประเมินประสิทธิภาพโปรแกรมสารสนเทศเพื่อการบริหารงานการเงินและบัญชีของโรงเรียนขนาดเล็กโดยผู้ทดลองใช้ทั้ง 5 ด้าน มีประสิทธิภาพโดยรวมอยู่ในระดับมากเรียงตามลำดับดังนี้ ด้านความสามารถทำงานตรงตen_US
dc.description.sponsorshipคณะครุศาสตร์ และบัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยราชภัฏสุราษฎร์ธานีen_US
dc.language.isothen_US
dc.publisherบัณฑิตวิทยาลัยen_US
dc.subjectการพัฒนาโปรแกรมสารสนเทศen_US
dc.subjectการบริหารงานการเงินและบัญชีen_US
dc.subjectการบริหารสถานศึกษาen_US
dc.titleการพัฒนาโปรแกรมสารสนเทศเพื่อการบริหารงานการเงินและบัญชีของโรงเรียนขนาดเล็กสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสุราษฎร์ธานี เขต 3en_US
dc.title.alternativeThe Development of Financial Accounting Management Information Program for Small-Sized Schools under The Primary Educational Service Area Office Suratthani 3en_US
dc.typeArticleen_US
ปรากฏในกลุ่มข้อมูล:Education Administration: Independent Study (IS)

แฟ้มในรายการข้อมูลนี้:
แฟ้ม รายละเอียด ขนาดรูปแบบ 
kullawit Ed64.pdf866.27 kBAdobe PDFดู/เปิด


รายการทั้งหมดในระบบคิดีได้รับการคุ้มครองลิขสิทธิ์ มีการสงวนสิทธิ์เว้นแต่ที่ระบุไว้เป็นอื่น