กรุณาใช้ตัวระบุนี้เพื่ออ้างอิงหรือเชื่อมต่อรายการนี้: http://ir.sru.ac.th/handle/123456789/850
ระเบียนเมทาดาทาแบบเต็ม
ฟิลด์ DC ค่าภาษา
dc.contributor.authorอภิเดช พงศ์แผ้วen_US
dc.contributor.authorชูศักดิ์ เอกเพชรen_US
dc.contributor.authorนัฎจรี เจริญสุขen_US
dc.date.accessioned2021-04-19T03:29:25Z-
dc.date.available2021-04-19T03:29:25Z-
dc.date.issued2564-
dc.identifier.citationการค้นคว้าอิสระครุศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาการบริหารการศึกษาen_US
dc.identifier.urihttp://ir.sru.ac.th/handle/123456789/850-
dc.descriptionการค้นคว้าอิสระครุศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาการบริหารการศึกษา มหาวิทยาลัยราชภัฏสุราษฎร์ธานีen_US
dc.description.abstractการวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) เพื่อศึกษาสภาพปัญหาและความต้องการในการพัฒนาระบบสารสนเทศเพื่อการจัดเก็บและการสืบค้นสำหรับการบริหารงานบุคคลโรงเรียนขนาดใหญ่ 2) เพื่อพัฒนาระบบสารสนเทศเพื่อการจัดเก็บและการสืบค้นสำหรับการบริหารงานบุคคลโรงเรียนขนาดใหญ่ 3) เพื่อประเมินประสิทธิภาพของระบบสารสนเทศเพื่อการจัดเก็บและการสืบค้นสำหรับการบริหารงานบุคคลโรงเรียนขนาดใหญ่ โดยวิธีการดำเนินการดังนี้ 1) ศึกษาสภาพปัญหาและความต้องการในการพัฒนาระบบสารสนเทศเพื่อการจัดเก็บและการสืบค้นสำหรับการบริหารงานบุคคลโรงเรียนขนาดใหญ่ ซึ่งประชากร ได้แก่ ผู้บริหาร จำนวน 10 คน กลุ่มตัวอย่าง ได้แก่ ผู้บริหาร จำนวน 10 คน ได้มาโดยการสุ่มอย่างง่าย เครื่องมือที่ใช้เป็นแบบสัมภาษณ์ 2) พัฒนาระบบสารสนเทศเพื่อการจัดเก็บและการสืบค้นสำหรับการบริหารงานบุคคลโรงเรียนขนาดใหญ่ ประเมินระบบ ฯ โดยผู้เชี่ยวชาญ จำนวน 5 คน ซึ่งอยู่เกณฑ์ที่สามารถใช้งานระบบได้ และ 3) ประเมินประสิทธิภาพระบบสารสนเทศเพื่อการจัดเก็บและการสืบค้นสำหรับการบริหารงานบุคคลโรงเรียนขนาดใหญ่ โดยกลุ่มตัวอย่างทดลองระบบ ฯ ได้แก่ ผู้บริหาร เจ้าหน้าที่บุคคล ครูและบุคลากร จำนวน 40 คน ได้มาโดยการเลือกแบบเจาะจง เครื่องมือที่ใช้เป็นแบบแบบประเมินระบบฯ วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้ค่าเฉลี่ยและส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ผลการวิจัยพบว่า 1) สภาพปัญหาและความต้องการในการพัฒนาระบบสารสนเทศเพื่อการจัดเก็บและการสืบค้นสำหรับการบริหารงานบุคคลโรงเรียนขนาดใหญ่ พบว่า มีการจัดเก็บข้อมูลแยกส่วน การสืบค้นข้อมูลทำได้ยาก มีความต้องการจัดเก็บข้อมูลในขอบข่ายงานบุคคลของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน กระทรวงศึกษาธิการ การรายงานในรูปแบบต่าง ๆ โดยมีการกำหนดสิทธิ์การใช้งานออกเป็น 3 ระดับ คือ ผู้ดูแลระบบ/ผู้บริหาร เจ้าหน้าที่งานบุคคล ครูและบุคลากร 2) ผลการพัฒนาระบบสารสนเทศเพื่อการจัดเก็บและการสืบค้นสำหรับการบริหารงานบุคคลโรงเรียนขนาดใหญ่ ประกอบด้วย ข้อมูลส่วนตัว การลาหยุดราชการ การไปราชการ การประเมินผลการปฏิบัติงาน เครื่องราชอิสริยาภรณ์/เหรียญตรา อัตรากำลัง พฤติกรรมโทษทางวินัย/และการล้างมลทิน เงินเดือน ผลการตรวจสอบระบบโดยผู้เชี่ยวชาญ จำนวน 5 คน พบว่า มีค่าดัชนีความสอดคล้อง ระหว่าง 0.80-1.00 สามารถใช้งานระบบได้ 3) ผลการประเมินประสิทธิภาพของระบบสารสนเทศเพื่อการจัดเก็บและการสืบค้นสำหรับการบริหารงานบุคคลโรงเรียนขนาดใหญ่ พบว่าโดยรวมมีประสิทธิภาพอยู่ในระดับมาก เรียงตามลำดับมากไปหาน้อย ดังนี้ ด้านความปลอดภัย ด้านคู่มือการใช้งาน ด้านการใช้งานทั่วไปของโปรแกรม ด้านหน้าที่ของระบบ และด้านความสามารถทำงานตรงตามความต้องการen_US
dc.description.sponsorshipบัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยราชภัฏสุราษฎร์ธานีen_US
dc.language.isothen_US
dc.publisherบัณฑิตวิทยาลัยen_US
dc.subjectระบบสารสนเทศเพื่อการจัดเก็บและการสืบค้นen_US
dc.subjectการบริหารงานบุคคลโรงเรียนขนาดใหญ่en_US
dc.titleการพัฒนาระบบสารสนเทศเพื่อการจัดเก็บและการสืบค้นสำหรับการบริหารงานบุคคลโรงเรียนขนาดใหญ่ สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 11 ในจังหวัดชุมพรen_US
dc.title.alternativeThe Development of Information System for Storage and Searching for Personnel Management of Large Schools under The Secondary Educational Service Area Office Chumphon 11en_US
dc.typeArticleen_US
ปรากฏในกลุ่มข้อมูล:Education Administration: Independent Study (IS)

แฟ้มในรายการข้อมูลนี้:
แฟ้ม รายละเอียด ขนาดรูปแบบ 
2apidach_is_ed64.pdf1.55 MBAdobe PDFดู/เปิด


รายการทั้งหมดในระบบคิดีได้รับการคุ้มครองลิขสิทธิ์ มีการสงวนสิทธิ์เว้นแต่ที่ระบุไว้เป็นอื่น