กรุณาใช้ตัวระบุนี้เพื่ออ้างอิงหรือเชื่อมต่อรายการนี้: http://ir.sru.ac.th/handle/123456789/1157
ระเบียนเมทาดาทาแบบเต็ม
ฟิลด์ DC ค่าภาษา
dc.contributor.authorวิษณุพงศ์ สุจารีย์en_US
dc.contributor.authorมาดล จรูญรัตน์en_US
dc.contributor.authorอมร หวังอัครางกูรen_US
dc.date.accessioned2025-11-06T03:59:58Z-
dc.date.available2025-11-06T03:59:58Z-
dc.date.issued2568-10-06-
dc.identifier.citationบทความ, การค้นคว้าอิสระรัฐศาสตรมหาบัณฑิตen_US
dc.identifier.urihttp://ir.sru.ac.th/handle/123456789/1157-
dc.descriptionบทความการค้นคว้าอิสระหลักสูตรรัฐศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาการเมืองการปกครอง มหาวิทยาลัยราชภัฎสุราษฎร์ธานีen_US
dc.description.abstractการวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาแนวพระราชดำริในการปกครองของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร (รัชกาลที่ 9) 2) ศึกษาความเป็นพลังอำนาจละมุนทางการเมืองของพระบาทสมเด็จ พระเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 9) และ 3) เสนอแนะรูปแบบในการประยุกต์ใช้แนวพระราชดำริและหลักการทรงงานของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 9) กำหนดรูปแบบการวิจัยเป็นเชิงคุณภาพ เก็บรวบรวมข้อมูลโดยการสัมภาษณ์จากกลุ่มผู้ให้ข้อมูลสำคัญ 3 กลุ่ม จำนวน 17 คน/รูป โดยใช้วิธีการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงพรรณนาเพื่อตอบวัตถุประสงค์การวิจัย ผลการวิจัยพบว่า 1) ทรงมีแนวพระราชดำริในการปกครองที่สำคัญ 3 ประการ คือ ความเป็นธรรมราชา ความเป็นกลางทางการเมือง และการเป็นศูนย์กลางในการสร้างความสามัคคีและความสมานฉันท์ ทรงปกครองโดยยึดหลักธรรมทางพระพุทธศาสนา ได้แก่ ทศพิธราชธรรม และหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ซึ่งเน้นความพอประมาณและความมีเหตุผล ในฐานะ “ธรรมราชา” และทรงเป็นต้นแบบของผู้นำที่ใช้หลักธรรมาภิบาลนอกจากนี้พระองค์ยังดำรงความเป็นกลางทางการเมืองอย่างเคร่งครัด ไม่เข้าข้างฝ่ายใด เปรียบเสมือน “โซ่คล้องใจ”ในช่วงวิกฤตการณ์ทางการเมือง เพื่อคลี่คลายความขัดแย้งและส่งเสริมความสงบสุขในสังคม 2) ทรงใช้พลังทางศีลธรรมและพระบารมีอย่างแยบคายในการปกครองประเทศและสร้างความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ โดยไม่อาศัยอำนาจบังคับ แต่ใช้การนำด้วยความเมตตาและความเข้าใจผ่านพระราชกรณียกิจที่มุ่งพัฒนาคุณภาพชีวิตประชาชน และส่งเสริมความสัมพันธ์อันดีในระดับนานาชาติ ทรงเป็นสัญลักษณ์ของผู้นำที่มีวิสัยทัศน์กว้างไกลและมีบทบาทสำคัญในการรักษาความมั่นคงของชาติด้วยสันติวิธี แสดงให้เห็นว่า รัชกาลที่ 9 ทรงเป็น “ราชาปราชญ์” ที่นำพาประเทศโดยใช้หลักธรรมและพลังอำนาจละมุนอย่างสมดุล เพื่อความเจริญรุ่งเรืองและความยุติธรรม 3) รูปแบบการประยุกต์ใช้แนวพระราชดำริและหลักการทรงงานของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร (รัชกาลที่ 9) โดยมีใจความสำคัญคือ ศาสตร์พระราชา และหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ซึ่งนำไปใช้เป็นแนวทางในการพัฒนาชีวิต การพัฒนาชุมชน องค์กร ประเทศและการบริหารจัดการทรัพยากรได้อย่างยั่งยืนen_US
dc.description.sponsorshipคณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฎสุราษฎร์ธานี จังหวัดสุราษฎร์ธานีen_US
dc.language.isothen_US
dc.publisherบัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยราชภัฏสุราษฎร์ธานีen_US
dc.subjectแนวพระราชดำริen_US
dc.subjectการปกครองen_US
dc.subjectรัชกาลที่ 9en_US
dc.titleแนวพระราชดำริในการปกครองของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร (รัชกาลที่ 9)en_US
dc.title.alternativeThe Governance Philosophy of His Majesty King Bhumibol Adulyadej the Great (King Rama IX)en_US
dc.typeArticleen_US
ปรากฏในกลุ่มข้อมูล:Politics and Government : Independent Study (IS)

แฟ้มในรายการข้อมูลนี้:
แฟ้ม รายละเอียด ขนาดรูปแบบ 
is68_Wissanupong-Pol.pdfบทความ, วิษณุพงศ์ สุจารีย์261.91 kBAdobe PDFดู/เปิด


รายการทั้งหมดในระบบคิดีได้รับการคุ้มครองลิขสิทธิ์ มีการสงวนสิทธิ์เว้นแต่ที่ระบุไว้เป็นอื่น