กรุณาใช้ตัวระบุนี้เพื่ออ้างอิงหรือเชื่อมต่อรายการนี้:
http://ir.sru.ac.th/handle/123456789/1045
ชื่อเรื่อง: | การปรับตัวของผู้บริหารองค์การบริหารส่วนตำบลต่อการประกาศใช้พระราชบัญญัติสภาตำบลและองค์การบริหารส่วนตำบล พ.ศ. 2537 แก้ไขเพิ่มเติมถึง (ฉบับที่ 7) พ.ศ. 2562 ในเขตจังหวัดชุมพร |
ชื่อเรื่องอื่นๆ: | The Adaptation of the Administrative Officials in Chumphon Province for the Implementation of the Subdistrict Council and Administrative Organization Act of 1994 (2537) to Edition 7 of 2019 (2562 B.E.) |
ผู้แต่ง/ผู้ร่วมงาน: | รัตนมน รักนุ่ม อมร หวังอัครางกูร ธุวพล ทองอินทราช |
คำสำคัญ: | การเลือกตั้งท้องถิ่น พระราชบัญญัติสภาตำบลและองค์การบริหารส่วนตำบล องค์การบริหารส่วนตำบล |
วันที่เผยแพร่: | 1-ธัน-2566 |
สำนักพิมพ์: | บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยราชภัฏสุราษฎร์ธานี |
แหล่งอ้างอิง: | บทความ, การค้นคว้าอิสระรัฐศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาการเมืองการปกครอง |
บทคัดย่อ: | การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาบทบัญญัติของพระราชบัญญัติสภาตำบลและองค์การบริหารส่วนตำบล พ.ศ. 2537 แก้ไขเพิ่มเติมถึง (ฉบับที่ 7) พ.ศ. 2562 (พระราชบัญญัติฯ) 2) ศึกษาการปรับตัวของผู้บริหารองค์การบริหารส่วนตำบลในจังหวัดชุมพรต่อการประกาศใช้พระราชบัญญัติฯ และ 3) วิเคราะห์ความสัมพันธ์ระหว่างการปรับตัวของผู้บริหารองค์การบริหารส่วนตำบลกับบทบัญญัติของพระราชบัญญัติฯ ภายใต้ระเบียบวิธีวิจัยเชิงคุณภาพ โดยการสัมภาษณ์เชิงลึกผู้ให้ข้อมูลสำคัญ จำนวน 15 คน ประกอบด้วย นายกองค์การบริหารส่วนตำบลและปลัดองค์การบริหารส่วนตำบลในจังหวัดชุมพร โดยการคัดเลือกแบบเฉพาะเจาะจง แล้วนำข้อมูลที่ได้มาวิเคราะห์ด้วยวิธีการวิเคราะห์เนื้อหา และนำเสนอในรูปแบบพรรณนา ผลการวิจัยพบว่า 1) บทบัญญัติของพระราชบัญญัติฯ ได้บัญญัติถึงรูปแบบการกระจายอำนาจในการปกครองส่วนท้องถิ่นผ่านองค์การบริหารส่วนตำบล มีสาระสำคัญที่เกี่ยวข้องกับการลงสมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนตำบล และนายกองค์การบริหารส่วนตำบล ใน 3 ประเด็น คือ (1) การแก้ไขจำนวนสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนตำบล (2) การแก้ไขคุณสมบัติและลักษณะต้องห้าม และการกระทำอันต้องห้ามของผู้ลงสมัครรับเลือกตั้ง และ (3) การแก้ไขเขตเลือกตั้ง และการได้มาซึ่งสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนตำบล 2) การปรับตัวของผู้บริหารองค์การบริหารส่วนตำบลต่อการประกาศใช้พระราชบัญญัติฯ ประเด็นที่ 1 การแก้ไขจำนวนสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนตำบลที่ลดลงเหลือเพียงเขตเลือกตั้งละ 1 คน พบว่า ผู้บริหารส่วนใหญ่ไม่เห็นด้วยกับการปรับลดจำนวนสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนตำบล เพราะมีภาระงานที่ค่อนข้างหนัก ประเด็นที่ 2 การปรับเพิ่มอายุของนายกองค์การบริหารส่วนตำบลเป็นอายุไม่ต่ำกว่า 35 ปี พบว่า ผู้บริหารส่วนใหญ่มีความเห็นว่า อายุไม่มีความสัมพันธ์กับประสิทธิภาพในการทำงาน แต่ขึ้นอยู่กับความรู้ความสามารถของแต่ละบุคคล ประเด็นที่ 3 การแก้ไขเขตเลือกตั้ง และการได้มาซึ่งสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนตำบล ผู้บริหารส่วนใหญ่เห็นว่า การกำหนดให้ผู้มีสิทธิลงสมัครรับเลือกตั้งในเขตพื้นที่ใดก็ได้ในตำบลนั้น ถือเป็นการเปิดโอกาสให้กับผู้สมัครมากขึ้น 3) ความสัมพันธ์ระหว่างการปรับตัวของผู้บริหารองค์การบริหารส่วนตำบลกับบทบัญญัติของพระราชบัญญัติฯ พบว่า ผู้บริหารทั้งหมดสามารถปรับตัวและปฏิบัติตามเงื่อนไขที่บัญญัติไว้ในพระราชบัญญัติฯ ในการลงสมัครรับเลือกตั้งที่ผ่านมาได้อย่างไรก็ตามควรมีการแก้ไขเพิ่มเติมเรื่องจำนวนสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนตำบล เขตเลือกตั้ง และการได้มาซึ่งสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนตำบลให้มีสัดส่วนที่สอดคล้องกับจำนวนประชาชนในแต่ละเขตเลือกตั้ง เพื่อให้สามารถทำหน้าที่เป็นผู้แทนในการสะท้อนความต้องการของประชาชนในแต่ละเขตเลือกตั้งได้อย่างมีประสิทธิภาพ |
รายละเอียด: | บทความ, การค้นคว้าอิสระรัฐศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาการเมืองการปกครอง มหาวิทยาลัยราชภัฏสุราษฎร์ธานี |
URI: | http://ir.sru.ac.th/handle/123456789/1045 |
ปรากฏในกลุ่มข้อมูล: | Politics and Government : Independent Study (IS) |
แฟ้มในรายการข้อมูลนี้:
แฟ้ม | รายละเอียด | ขนาด | รูปแบบ | |
---|---|---|---|---|
is POL66 Rattanamon.pdf | บทความ, การค้นคว้าอิสระรัฐศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาการเมืองการปกครอง | 1.19 MB | Adobe PDF | ดู/เปิด |
รายการทั้งหมดในระบบคิดีได้รับการคุ้มครองลิขสิทธิ์ มีการสงวนสิทธิ์เว้นแต่ที่ระบุไว้เป็นอื่น