กรุณาใช้ตัวระบุนี้เพื่ออ้างอิงหรือเชื่อมต่อรายการนี้: http://ir.sru.ac.th/handle/123456789/1035
ระเบียนเมทาดาทาแบบเต็ม
ฟิลด์ DC ค่าภาษา
dc.contributor.authorนาคนคร วิมลศรีen_US
dc.contributor.authorอัคคกร ไชยพงษ์en_US
dc.date.accessioned2023-09-16T10:39:19Z-
dc.date.available2023-09-16T10:39:19Z-
dc.date.issued2566-09-01-
dc.identifier.citationบทความ, การค้นคว้าอิสระนิติศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชานิติศาสตร์en_US
dc.identifier.urihttp://ir.sru.ac.th/handle/123456789/1035-
dc.descriptionบทความ, การค้นคว้าอิสระนิติศาสตรมหาบัณฑิตen_US
dc.description.abstractการศึกษาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาสภาพปัญหาเกี่ยวกับอำนาจฟ้องคดีอาญาของบิดาที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย กรณีหญิงถูกทำร้ายจนเป็นเหตุให้แท้งลูกในประเทศไทย 2) ศึกษาแนวคิดและทฤษฎีเกี่ยวกับอำนาจฟ้องคดีอาญา ความเป็นผู้เสียหายในคดีอาญา รวมไปถึงหลักการคุ้มครองการมีสภาพบุคคลของทารกในครรภ์มารดา 3) ศึกษาบทกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับอำนาจฟ้องคดีอาญาและสิทธิของผู้เสียหายทั้งของประเทศไทยและต่างประเทศ และ 4) เสนอแนวทางแก้ไขกฎหมายเพื่อการรับรองอำนาจฟ้องคดีอาญาให้แก่บิดาที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายของทารกในครรภ์มารดา ซึ่งเป็นหญิงที่ถูกทำร้ายจนเป็นเหตุให้แท้งลูกในประเทศไทย โดยอาศัยการศึกษาวิจัยเชิงคุณภาพจากการรวบรวมข้อมูลเอกสารต่าง ๆ ได้แก่ กฎหมาย หนังสือ ตำรา บทความวิชาการ คำพิพากษาของศาล และข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ โดยนำข้อมูลมาศึกษาวิเคราะห์ สังเคราะห์ และเรียบเรียงในรูปแบบพรรณนาความ จากการศึกษาพบว่า ระบบการฟ้องคดีอาญาตามหลักการสากลจะมี 3 ลักษณะ ได้แก่ ฟ้องคดีอาญาโดยผู้เสียหาย ฟ้องคดีอาญาโดยประชาชน และฟ้องคดีอาญาโดยรัฐ ประเทศไทยยอมรับในหลักอำนาจฟ้องคดีโดยผู้เสียหายและโดยรัฐ จึงทำให้บุคคลที่ไม่ใช่ผู้เสียหายไม่อาจฟ้องคดีอาญาได้ รวมไปถึงบิดาที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย กรณีภรรยาถูกทำร้ายจนเป็นเหตุให้แท้งลูก โดยบุคคลที่เป็นผู้เสียหายตามกฎหมายของประเทศไทยสามารถดำเนินคดีได้ทั้งความผิดต่อส่วนตัวและความผิดต่อรัฐ และไม่ตัดสิทธิการฟ้องคดีโดยฝ่ายรัฐและฝ่ายผู้เสียหาย ด้วยเหตุนี้การฟ้องคดีอาญาโดยผู้เสียหายของประเทศไทยจึงเปิดกว้าง แต่ทั้งนี้จะต้องเป็น “ผู้เสียหายโดยนิตินัย” ในสหราชอาณาจักร (อังกฤษ) ได้ยอมรับในหลักการดำเนินคดีอาญาโดยประชาชน โดยถือว่าประชาชนทุกคนเป็นผู้เสียหาย ด้วยเหตุนี้ อำนาจฟ้องคดีอาญาจึงเป็นของทุกคน ทำให้ไม่มีการนำเอาส่วนได้เสียของบุคคลมาปะปนกับส่วนได้เสียของสังคม จึงไม่มีรูปแบบการฟ้องคดีในความผิดต่อส่วนตัวที่ผู้เสียหายสามารถให้เจตจำนงในการที่จะไม่ฟ้องหรือยอมความได้ และจากระบบการดำเนินคดีอาญาโดยประชาชนของสหราชอาณาจักร (อังกฤษ) ดังกล่าวนี้ได้ส่งผลทำให้บุตรที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย สามีภรรยาที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย บิดามารดาที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย รวมไปถึงผู้นิยมรักร่วมเพศสามารถเป็นผู้ทรงสิทธิในการดำเนินคดีอาญาได้อย่างกว้างขวางตามไปด้วย ผู้ศึกษาจึงมีข้อเสนอแนะให้นำมาปรับใช้เพื่อรับรองอำนาจฟ้องให้แก่บิดาที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายกรณีที่หญิงในฐานะภรรยาถูกทำร้ายจนเป็นเหตุให้แท้งลูกตามความผิดของประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 297 (5) ซึ่งจะทำให้ “ชาย” ซึ่งมีสถานะเป็น “บิดาที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย” ของทารกในครรภ์หญิง และเป็น “สามีที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย” ของหญิงที่ถูกทำร้ายจนเป็นเหตุให้แท้งลูก สามารถเป็นผู้เสียหายที่จะทรงสิทธิในการฟ้องคดีอาญาได้ โดยทำการแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 5 (2) วรรคสอง เป็นความว่า “กรณีที่หญิงถูกทำร้ายจนเป็นเหตุให้แท้งลูก ให้ผู้เป็นบิดาไม่ว่าจะชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ก็ตามของทารกในครรภ์หญิงเป็นผู้เสียหายด้วย”en_US
dc.description.sponsorshipบัณฑิตวิทยาลัย และคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏสุราษฎร์ธานี จังหวัดสุราษฎร์ธานีen_US
dc.language.isothen_US
dc.publisherบัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยราชภัฏสุราษฎร์ธานีen_US
dc.subjectบิดาที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายen_US
dc.subjectอำนาจฟ้องคดีอาญาen_US
dc.subjectผู้เสียหายโดยนิตินัยen_US
dc.titleอำนาจฟ้องคดีอาญาของบิดาที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย กรณี ภรรยาถูกทำร้ายจนเป็นเหตุให้แท้งลูกen_US
dc.title.alternativePower to Sue Criminal Prosecution towards an Illegitimate Fathers in case of a Wife Being Abused and Caused Miscarriageen_US
dc.typeArticleen_US
ปรากฏในกลุ่มข้อมูล:Laws : Independent Study (IS)

แฟ้มในรายการข้อมูลนี้:
แฟ้ม รายละเอียด ขนาดรูปแบบ 
is66law-Naknakorn.pdfบทความ, การค้นคว้าอิสระนิติศาสตรมหาบัณฑิต916.71 kBAdobe PDFดู/เปิด


รายการทั้งหมดในระบบคิดีได้รับการคุ้มครองลิขสิทธิ์ มีการสงวนสิทธิ์เว้นแต่ที่ระบุไว้เป็นอื่น